Repository LOGO
    • Login
    View Item 
    •   Intellectual Repository at Rajamangala University of Technology Phra Nakhon
    • Faculty and Institute (คณะและสถาบัน)
    • Faculty of Home Economics Technology
    • Student Projects
    • View Item
    •   Intellectual Repository at Rajamangala University of Technology Phra Nakhon
    • Faculty and Institute (คณะและสถาบัน)
    • Faculty of Home Economics Technology
    • Student Projects
    • View Item
    JavaScript is disabled for your browser. Some features of this site may not work without it.

    Browse

    All of DSpaceCommunities & CollectionsBy Issue DateAuthorsTitlesSubjectsThis CollectionBy Issue DateAuthorsTitlesSubjects

    My Account

    Login

    The usage of anthocyanin in extracted from roselle calyx in carbonated roselle juice

    Thumbnail
    View/Open
    HEC_61_34.pdf (2.603Mb)
    Date
    2018-08-14
    Author
    Sompanwang, Thunwa
    Sangsamut, Jasada
    Metadata
    Show full item record
    Abstract
    โครงงานพิเศษนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากรรมวิธีการสกัดสารแอนโซไซยานินจากกลีบรองดอกกระเจี๊ยบแดงแบบแห้งและแบบสด จากนั้นศึกษาระดับปริมาณของแข็งทั้งหมด ที่ละลายได้เหมาะสมในการผลิตน้ากระเจี๊ยบแดงอัดแก๊ส และศึกษาอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ น้ากระเจี๊ยบแดงอัดแก๊ส ซึ่งจากการทดลอง พบว่า กรรมวิธีการสกัดสารแอนโซไซยานินจากกลีบรอง ดอกกระเจี๊ยบแดงที่เหมาะสม คือ วิธีที่ 4 การสกัดแบบต้มก่อนสุญญากาศ ซึ่งกลีบรองดอกกระเจี๊ยบแดง แบบแห้งมีปริมาณสารแอนโทไซยานินสูงที่สุด คือ 201.46 ± 0.15 มิลลิกรัม/500 มิลลิลิตร โดยระยะเวลาในการกลั่นสุญญากาศที่ 45 นาที เป็นระยะเวลาการกลั่นสุญญากาศที่เหมาะสม ในการผลิตหัวเชื่อน้ากระเจี๊ยบแดงอัดแก๊ส ซึ่งมีปริมาณสารแอนโทไซยานินสูงที่สุด คือ 229.87 ± 0.08 มิลลิกรัม/500 มิลลิลิตร เมื่อน้าหัวเชื่อน้ากระเจี๊ยบแดงอัดแก๊ส พบว่า น้ากระเจี๊ยบแดงอัดแก๊ส (10 oBrix) มีปริมาณสารแอนโทไซยานิน สูงที่สุด คือ 49.70 ± 0.07 มิลลิกรัม/500 มิลลิลิตร สำหรับระดับปริมาณของแข็งทั้งหมดที่ละลายได้เหมาะสมในการผลิตน้ากระเจี๊ยบแดงอัดแก๊ส ได้แก่ 12 oBrix ผู้ทดสอบให้คะแนนความชอบในทุกด้านมากที่สุด และมีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p≥0.05) โดยมีค่าความเป็นกรด-ด่าง 3.21 ± 0.00 และปริมาณสาร แอนโทไซยานินสูงที่สุดคือ 52.70 ± 0.08 มิลลิกรัม/500 มิลลิลิตร จากนั้นศึกษาอายุการเก็บรักษา ผลิตภัณฑ์น้ากระเจี๊ยบแดงอัดแก๊สที่อุณหภูมิ 5±2 และ30±2 องศาเซลเซียส พบว่า ค่าสีแดง (a*) ค่าสีเหลือง (b*) ค่าpH และปริมาณสารแอนโทไซยานินในน้าผลิตภัณฑ์น้ากระเจี๊ยบแดงอัดแก๊ส มีค่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญ (p≤0.05) ส่วนค่าความสว่าง (L*) มีค่าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p≤0.05) ด้านคุณภาพทางจุลินทรีย์ของน้ากระเจี๊ยบแดงอัดแก๊ส ไม่พบปริมาณเชื่อจุลินทรีย์โคลิฟอร์ม อีโคไล ยีสต์รา ซาลโมเนลลา และมีปริมาณจุลินทรีย์ทั้งหมด ซึ่งไม่เกินกำหนดของมาตรฐาน กระทรวงสาธารณสุข เรื่องเครื่องดื่มในภาชนะบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิทที่ได้กำหนดไว้ สามารถเก็บรักษา ที่อุณหภูมิ 5±2 องศาเซลเซียส ได้อย่างน้อย 8 สัปดาห์ และที่อุณหภูมิ 30±2 องศาเซลเซียส เก็บรักษาได้ 4 สัปดาห์ และเมื่อน้ามาศึกษาการยอมรับผลิตภัณฑ์น้ากระเจี๊ยบแดงอัดแก๊ส ผู้บริโภค ให้การยอมรับ 100 เปอร์เซ็นต์
    URI
    http://repository.rmutp.ac.th/handle/123456789/2655
    Collections
    • Student Projects [106]

    DSpace software copyright © 2002-2015  DuraSpace
    Contact Us | Send Feedback
    Theme by 
    @mire NV
     

     


    DSpace software copyright © 2002-2015  DuraSpace
    Contact Us | Send Feedback
    Theme by 
    @mire NV